การตรวจแยกเพศนกเขาชวา
โดย Thanapat
เคยมีบางท่านได้ยินนกร้องหรือผิวลมมีเสียงและจังหวะ เพลงดีนึกว่าเป็นนกตัวผู้จับขึ้นกรงแข่งและนำมาฝึกรอกนานหลายเดือนนกก็ไม่ร้องจับตับสักที มาทราบภายหลังว่าเป็นนกตัวเมีย หรือการไปซื้อลูกนกมาเพาะเลี้ยงไม่ได้เพศตามที่ต้องการ ผิดเพศ ก็เพราะไม่มีการตรวจเช็คเพศให้แน่นอนก่อน จึงรวบรวมการตรวจแยกเพศนกเขาชวาพอเป็นสังเขป ดังนี้
เคยมีบางท่านได้ยินนกร้องหรือผิวลมมีเสียงและจังหวะ เพลงดีนึกว่าเป็นนกตัวผู้จับขึ้นกรงแข่งและนำมาฝึกรอกนานหลายเดือนนกก็ไม่ร้องจับตับสักที มาทราบภายหลังว่าเป็นนกตัวเมีย หรือการไปซื้อลูกนกมาเพาะเลี้ยงไม่ได้เพศตามที่ต้องการ ผิดเพศ ก็เพราะไม่มีการตรวจเช็คเพศให้แน่นอนก่อน จึงรวบรวมการตรวจแยกเพศนกเขาชวาพอเป็นสังเขป ดังนี้
การตรวจแบบสังเกตุ
1.ขนาดของตัวนก ตัวผู้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวเมียโดยจะมีส่วนของลำคอยาว อกใหญ่ หัวโตกว่าและมีส่วนหน้าลาดเอียงกว่า ส่วนตัวเมียจะมีหัวเล็กและกลม
2.ขนาดของแข้ง ตัวผู้จะมีแข้งหนายาวกว่าตัวเมีย ส่วนของปลายนิ้วก้อยมีลักษณะโตเป็นปมเห็นได้ชัด ส่วนตัวเมียจะมีปลายนิ้วก้อยที่เรียวเสมอกัน
3.สีขน นกตัวผู้จะมีสีขนที่อ่อนกว่าตัวเมียโดยเฉพาะตรงส่วนหน้าของหัว(หน้าผาก)ที่เรียกว่าหมอก
4.ตะเกียบหรือกระดูกเชิงกรานของนกตัวเมียจะอ่อนบาง มีทั้งอ่อนข้างดียวหรือ2ข้าง ตะเกียบนกตัวเมียจะห่างออกเมื่อโตขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับออกไข่ ส่วนของตัวผู้จะมีตะเกียบที่หนาแข็ง ตามปกติจะชิด ที่ห่างก็มีบ้างแต่น้อย
1.ขนาดของตัวนก ตัวผู้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวเมียโดยจะมีส่วนของลำคอยาว อกใหญ่ หัวโตกว่าและมีส่วนหน้าลาดเอียงกว่า ส่วนตัวเมียจะมีหัวเล็กและกลม
3.สีขน นกตัวผู้จะมีสีขนที่อ่อนกว่าตัวเมียโดยเฉพาะตรงส่วนหน้าของหัว(หน้าผาก)ที่เรียกว่าหมอก
5.เสียงร้องหรือขัน ตัวผู้จะมีเสียงก้องกังวานและจับตับมากกว่า ส่วนตัวเมียจะมีเสียงเล็กและเบา ขันน้อยกว่าไม่จับตับ
6.ตัวเมียมักยอมให้นกตัวอื่นขึ้นขี่หรือเหยียบหลัง ส่วนตัวผู้จะไม่ยอมแต่จะเป็นฝ่ายทำเสียเอง โดยตัวผู้จะมีนิ้วเท้าที่แข็งแรงใช้เกาะหลังนกตัวเมียส่วนตัวเมียจะอ่อนแรงกว่า
7.ตัวผู้จะแพนหางและผงกหัวเกี้ยวตัวเมีย เรียกว่าว้อ และทำเสียงกร็อดๆขู่เมื่อมีศัตรูเข้ามาใกล้ ส่วนตัวเมียก็มีบ้างแต่เสียงจะเบากว่า
8.การลูบหลังนก ตัวผู้จะแพนหางออก ส่วนตัวเมียจะไม่แพนหาง
9.เปิดดูทวาร ตัวผู้จะมีอวัยวะเพศเป็นติ่งซ้อนอยู่ภายในเมื่อสืบพันธ์จะยื่นออกมาเป็นเกลียวยาว ส่วนตัวเมียจะไม่มีแต่จะมีช่องอวัยวะ 2 ช่องคือช่องทวารหนักกับช่องสืบพันธ์และไข่ตามรูป
1.ตรวจหาดีเอ็นเอ และโครโมโซมที่แตกต่างกัน ด้วยการเก็บตัวอย่างเลือดไปทำการทดสอบในห้องแล็ป ซึ่งมีราคาแพงประมาณ 650บาทต่อตัว แต่ได้ผลที่แน่นอนเและยังสามารถตรวจว่ามาจากพ่อแม่ที่ต้องการอีกด้วย
2.ตรวจคลื่นแม่เหล็กบริเวณทวารหนัก ตัวผู้จะมีขั้วเหนืออยู่ ส่วนตัวเมียจะมีขั้วใต้ การตรวจจะใช้เข็มเย็บผ้ามาร้อยด้ายแล้วผูกแขวนไว้ นำก้นนกไปจ่อให้ทวารตรงกับปลายเข็มที่มีขั้วแม่เหล็กเหนืออยู่ หากดูดกันเข็มจะวนเข้าหาแสดงว่าเป็นนกตัวเมีย แต่ถ้าผลักออกเข็มจะแกว่งไปมาแสดงว่าเป็นตัวผู้
6.ตัวเมียมักยอมให้นกตัวอื่นขึ้นขี่หรือเหยียบหลัง ส่วนตัวผู้จะไม่ยอมแต่จะเป็นฝ่ายทำเสียเอง โดยตัวผู้จะมีนิ้วเท้าที่แข็งแรงใช้เกาะหลังนกตัวเมียส่วนตัวเมียจะอ่อนแรงกว่า
7.ตัวผู้จะแพนหางและผงกหัวเกี้ยวตัวเมีย เรียกว่าว้อ และทำเสียงกร็อดๆขู่เมื่อมีศัตรูเข้ามาใกล้ ส่วนตัวเมียก็มีบ้างแต่เสียงจะเบากว่า
8.การลูบหลังนก ตัวผู้จะแพนหางออก ส่วนตัวเมียจะไม่แพนหาง
9.เปิดดูทวาร ตัวผู้จะมีอวัยวะเพศเป็นติ่งซ้อนอยู่ภายในเมื่อสืบพันธ์จะยื่นออกมาเป็นเกลียวยาว ส่วนตัวเมียจะไม่มีแต่จะมีช่องอวัยวะ 2 ช่องคือช่องทวารหนักกับช่องสืบพันธ์และไข่ตามรูป
การตรวจแบบวิทยาศาสตร์
2.ตรวจคลื่นแม่เหล็กบริเวณทวารหนัก ตัวผู้จะมีขั้วเหนืออยู่ ส่วนตัวเมียจะมีขั้วใต้ การตรวจจะใช้เข็มเย็บผ้ามาร้อยด้ายแล้วผูกแขวนไว้ นำก้นนกไปจ่อให้ทวารตรงกับปลายเข็มที่มีขั้วแม่เหล็กเหนืออยู่ หากดูดกันเข็มจะวนเข้าหาแสดงว่าเป็นนกตัวเมีย แต่ถ้าผลักออกเข็มจะแกว่งไปมาแสดงว่าเป็นตัวผู้
ขอให้ท่านเลือกใช้การแยกเพศนกแบบผสมผสาน หลายๆแบบมาพิจารณาควบคู่กันไป จะทำให้ท่านสามารถทราบได้ว่านกตัวนี้เป็นตัวผู้หรือตัวเมีย นิยมทำเมื่อลูกนกอายุ 5 วัน จับใส่ห่วงขาพร้อมบันทึกทำประวัติ
แหล่งที่มา
http://zebra-dove-for-competition.blogspot.com/2012/03/blog-post.html